การออกแบบบ้านให้ใช้พลังงานน้อยลง

[Beer625]

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแสงตะวัน โดยที่จะต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มใบในความเร็วที่เหมาะสม เพื่อลดอุณภูเขาไม่ข้างนอกใกล้บริเวณบ้านรวมทั้ง ป้องกันลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านมากจนเกินไป โดยควรจะปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกแล้วก็ ทิศตะวันตก



2. ควรที่จะเลือกชนิดต้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามเขตแดนเช่น ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา เป็นต้น เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการดูแลรักษา เนื่องจากว่าต้นไม้พวกนี้มีความเคยชินกับภาวะภูมิประเทศ แล้วก็ลักษณะอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูเขามิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมบริเวณรอบๆบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกต้นหญ้า จัดแต่งสวน ทำน้ำตกจำลอง ฯลฯ

4. ถมดินรอบๆรอบบ้านให้สูง เพื่อให้พื้นรวมทั้งผนังเล็กน้อยต่ำลงมากยิ่งกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ และก็ปลูกไม้พุ่มบริเวณฝาผนังบ้าน



5. ในเรื่องที่มีพื้นที่จำกัด บางครั้งอาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน และลดความแรงของแสงแดดที่ ส่องผิวอาคาร



6. ทำรางน้ำรวมทั้งท่อที่มีไว้เพื่อระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆด้านในบ้านให้ สมควร เพื่อป้องกันความชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรือบางครั้งอาจจะทำท่อสำหรับระบายน้ำที่ได้จาก แนวทางในการซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. หากต้องการทำที่หยุดรถ ควรทำที่จอดรถยนต์พร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาและผนัง โดยความครึ้มของฉนวนที่ใช้จำเป็นต้อง ขึ้นอยู่กับภาระหน้าที่ทำความเย็น แต่ว่าโดยมากใช้ฉนวนที่มีความครึ้มโดยประมาณ 2-3 นิ้ว (50-75 มม.) ฉนวนสำหรับหลังคาและผนังมีหลายแบบ อย่างเช่น ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกลงสีผนังภายนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้สิ่งของที่มีผิวมันและกันความชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนได้ดิบได้ดี

10. สำหรับผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรที่จะเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานพลิกที่สามารถควบคุมปริมาณลมได้ดีมากยิ่งกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างชนิดบานเลื่อน

11.ติดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่ต้องเพียงแค่นั้น โดยให้เพียงพอสำหรับการรับแสงสว่างจากธรรมชาติ และก็ควรเลี่ยงการตำหนิดตั้งด้านทิศตะวันออกและตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวราบเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือแล้วก็ทิศใต้ เนื่องจากสามารถบังแสงแดดในช่วงเที่ยงแล้วก็ตอน บ่าย ส่วนกันสาดแนวตั้งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกรวมทั้งทิศตะวันตก



13. จัดตั้งผ้าม่านหรือม่านรอบๆหน้าต่างกระจก เพื่อปกป้องความร้อนจากแสงสว่าง อาทิตย์เข้าด้านในตัวบ้าน ส่วนการตำหนิดฟิล์มถ่ายรูปกรองแสงที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้ว่าจะคุ้มครองปกป้อง ความร้อนจากแสงแดดได้ดีมากว่า แต่ว่าค่าครองชีพสูงกว่าก็เลยไม่ค่อยได้รับความนิยม

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่ปรารถนาปรับอากาศที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองเหนือ รอบๆที่จอดรถหรือระเบียง ควรจะมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อป้องกันการนำความร้อนจากด้านนอกผ่านใต้พื้นของห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. ติดตั้งพัดลมที่มีไว้สำหรับระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ข้างนอก

16. ทำระเบียงยื่นพร้อมติดกันสาดในทิศตะวันออกและทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งทานอาหารว่างหรือใช้หุงหาอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. อุดรอยรั่วด้วยปูนซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องติดตั้งโคมไฟ ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่เตรียมไว้สำหรับเดินท่อน้ำ ฯลฯ เพื่อคุ้มครองความ ร้อนจากข้างนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. ทิศเหนืออยรั่วสะกดรอยต่อ ระหว่างฝาผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อคุ้มครองปกป้องความ ร้อนรวมทั้งความชื้นจากภายนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในกรณีที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้และชั้นที่เอาไว้สำหรับวางสิ่งของให้เหมาะสม ไม่บังลม ไม่กีดขวางการระบาย อากาศ และไม่บังแสงสว่าง

20. จัดวางโต๊ะที่มีไว้สำหรับใช้ในการเขียนหนังสือให้หันหน้าไปในผนังด้านที่รับแสงธรรมชาติได้

21. หมั่นดูแลชำระล้าง ประพรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เฉอะแฉะ เพื่อลดภาระสร้างความเย็นเนื่องจากความร้อนซ่อนเร้น



22. จัดแบ่งห้องใช้สอยโดยพิจารณาถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ เช้าตรู่อยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยแทบทั้งวันให้อยู่ทิศเหนือ เพราะจะเย็นสบายที่สุด เป็นต้นว่า ห้องนั่งเล่นอยู่ในทิศเหนือ เป็นต้น

23. ควรจะติดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ แล้วก็ต้องไม่มีเครื่องกีดขวางทางลมเข้ารวมทั้งออกจากคอนเดนเซอร์ ในด้านด้าน เหนือของบ้านเป็นด้านที่เหมาะสมที่จะติดตั้งคอนเดนเซอร์มากที่สุด แม้กระนั้นหากไม่ สามารถจัดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางทิศใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรจะติดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลรักษาสบาย และก็ใน ที่ๆไม่ส่งเสียงรบกวนเข้ามาภายในห้อง



25. ควรจัดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ข้างในห้องปรับอากาศ ให้สมควรหมายถึงไม่สมควรได้รับแสงอาทิตย์โดยตรง ด้วยเหตุว่าจะก่อให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าบกพร่อง แล้วก็ควรจะติดตั้งในบริเวณที่มีความสามารถที่จะอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายและ แล้วก็สะดวกต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามปรารถนา

26. ควรจะจัดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในรอบๆที่ไม่ปรับอากาศรวมทั้งเปิดเตียนโล่ง อาทิเช่น ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนแล้วก็ลดความชื้นที่ปลด ปลดปล่อยมาจากอุปกรณ์ไฟฟ้าพวกนี้ แต่ถ้าเกิดจำเป็นต้องติดตั้งในห้องปิด น่าจะจะต้องติด ตั้งพัดลมสำหรับระบายอากาศ เพื่อปกป้องการสะสมความร้อนรวมทั้งความชุ่มชื้นภายในห้อง



27. พินิจพิเคราะห์ทำห้องครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แม้กระนั้นหากหลบหลีกมิได้ครัวที่อยู่ ด้านในตัวบ้านควรจะมีการระบายความร้อนที่ดี เนื่องจากว่าครัวมักมี อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชนิด อย่างเช่น เตาอบ เตาหุง กาที่มีไว้สำหรับต้มน้ำร้อน ตู้เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปลดปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. จัดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณที่ทำการหุงรวมทั้งอากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรจะมาจากข้างนอกบ้านไม่ควรใช้อากาศ เย็นจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง

29.เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง นอกจากจะออม พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย อย่างเช่น ใช้ตู้เย็นประสิทธิภาพสูง ใช้หลอดไฟคุณภาพสูง ฯลฯ

[fairya]

 ดันกระทู้

[Fern751]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Fern751]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Fern751]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Fern751]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Panitsupa]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Fern751]

ดันๆ

[Hanako5]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Hanako5]

 ดันกระทู้

[fairya]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Jenny937]

 ดันกระทู้

[Hanako5]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[fairya]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Ailie662]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ